- บล็อก
- ฆ่าเชื้อไวรัส เพิ่มภูมิคุ้มกัน เติมความสดชื่น ด้วย Ozone Therapy
ฆ่าเชื้อไวรัส เพิ่มภูมิคุ้มกัน เติมความสดชื่น ด้วย Ozone Therapy
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า โอโซน (Ozone) ซึ่งส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับโอโซนที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นก๊าซพิษ ถ้าสูดดมเข้าไปจะทำให้เกิดพิษต่อระบบทางเดินหายใจได้ แต่การทำ Ozone Therapy หรือ การบำบัดด้วยออกซิเจน เป็นการเติมออกซิเจนทางหลอดเลือด และไม่มีการสูดดมโอโซนเข้าไป จึงไม่เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจค่ะ แล้วเรานำโอโซนมารักษาได้อย่างไร วันนี้หมอจะมาอธิบายให้ฟังถึงการทำออกซิเจนบำบัดค่ะ ว่าคืออะไร มีข้อดีอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง
Ozone Therapy เป็นการเติมออกซิเจนเข้มข้นเข้าหลอดเลือดโดยตรง โดยจะใช้ออกซิเจนในรูปของโอโซนทางการแพทย์ หรือ O3 ที่สามารถละลายเข้าไปในเลือดของเราได้ หลังจากเลือดได้รับการเติมออกซิเจนแล้ว เราก็จะให้กลับเข้าไปทางหลอดเลือดโดยตรง ทั้งนี้เป็นระบบปิด จึงปราศจากเชื้อและไม่มีการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อมภายนอก
เมื่อออกซิเจนในเลือดและเนื้อเยื่อเพิ่มขึ้น ก็จะให้ประโยชน์กับร่างกายหลายด้านด้วยกัน ได้แก่
- ช่วยกำจัดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ราและโปรโตซัว รวมถึงช่วยกำจัดเซลล์ที่ติดไวรัส และเกิดการสร้างเซลล์ใหม่มาทดแทน ช่วยให้คนที่รู้สึกเริ่มจะเป็นหวัดหรือเป็นหวัดหายเร็ว การให้เฉพาะที่จะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นด้วย รวมถึงสามารถใช้โอโซนรักษาการติดเชื้อในลำไส้ได้ด้วยค่ะ การทำ Ozone Therapy จะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้การรักษาปกติดีขึ้น
- กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น โดยการเพิ่มการผลิต interferon และ tumor necrosis factor (TNF) และ interleukin 2 ซึ่งเป็นเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน ให้สามารถกำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น
- เพิ่มพลังงานระดับเซลล์ โดยกระตุ้นกระบวนการ Oxygen Metabolism ทำให้ปริมาณออกซิเจนในเนื้อเยื่อเพิ่มขึ้น และ กระตุ้นการทำงานของ Krebs cycle ให้เกิดการสร้าง ATP หรือพลังงานระดับเซลล์ได้ดีขึ้น ช่วยให้เซลล์มีพลังงาน ทำงานได้ดี ร่างกายสดชื่น ไม่อ่อนเพลีย
- ช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระ (free radicals) โดยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่ทำหน้าที่กำจัดสารอนุมูลอิสระ เช่น Glutathione peroxidase, Catalase และ Superoxide dismutase เป็นต้น
- ช่วยการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น ป้องกันการอุดตันในหลอดเลือด
การทำ Ozone Therapy มีความปลอดภัยสูง สามารถทำได้เกือบทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะดังนี้
- ผู้ที่มีการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย รา หรือโปรโตซัว
- ผู้ที่รู้สึกไม่สบาย เป็นหวัดบ่อย
- ผู้ที่มีปัญหาระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคภูมิแพ้ โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)
- ผู้ที่อ่อนเพลียเรื้อรัง มีปัญหาขาดพลังงาน
- ผู้ที่มีปัญหาการไหลเวียนเลือด เช่น ผู้ที่มีปัญหาหลอดเลือดตีบ อุดตัน ผู้ป่วยโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าการทำ Ozone Therapy จะมีประโยชน์และความปลอดภัยสูง แต่ถ้าได้รับออกซิเจนมากเกินไป หรือใช้ไม่ถูกวิธี ก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและนัดหมายเพื่อปรึกษาแพทย์
โทร 0-2677-7077
Facebook : ADDLIFECenter
Line: @addlife
www.add-life.org