ต่อมหมวกไตล้า ต้นเหตุอาการเพลียเรื้อรัง รักษาอย่างไร

“ภาวะต่อมหมวกไตล้า” ก่อให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เหนื่อย และหมดแรงได้ง่าย จัดว่าเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน โดยหนึ่งในสาเหตุคือมีความเครียดเรื้อรัง หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ โดยอาการของภาวะต่อมหมวกไตล้าจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตลดลง เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ไม่แข็งแรง ไม่มีแรง ทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่ได้อันตรายร้ายแรง หลายคนจึงเลือกมองข้ามและไม่รีบแก้ไข แต่รู้หรือไม่ว่าหากสะสมภาวะอาการล้านี้ไว้นานอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมาจากภาวะต่อมหมวกไตล้าได้ 

ในบทความนี้ จึงจะมาสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภาวะต่อมหมวกไตล้า รวมถึงมีอาการ และวิธีแก้ต่อมหมวกไตล้ามาบอกกัน

ต่อมหมวกไตล้าคืออะไร

ต่อมหมวกไตล้า เป็นภาวะที่ต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนได้น้อยกว่าปกติ โดยเฉพาะฮอร์โมนหลัก ๆ ในร่างกาย 2 ชนิด ได้แก่ 

  • ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) เป็นฮอร์โมนที่หลั่งออกมาเพื่อให้ร่างกายรับมือกับความเครียด ควบคุมการเผาผลาญและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทั้งยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึงรักษาระดับความดันโลหิตให้คงที่
  • ฮอร์โมนดีเอชอีเอ (DHEA) เป็นฮอร์โมนตั้งต้นสำคัญที่ร่างกายนำไปใช้ในการสร้างฮอร์โมนเพศชายและเพศหญิงอื่น ๆ เช่น เทสโทสเตอโรน และเอสโตรเจน ทั้งยังช่วยในการต้านทานความเครียด ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ภาวะต่อมหมวกไตล้ามีอาการอย่างไร

สำหรับผู้ที่มีภาวะต่อมหมวกไตล้า มักมีอาการที่สามารถสังเกตได้โดยทั่วไป ดังนี้

  • นอนไม่หลับ หลับไม่ลึก เช้ามาไม่อยากตื่น
  • อ่อนเพลีย ง่วงนอน ช่วงหลังมื้อเที่ยง
  • ตกบ่ายรู้สึกอยากรับประทานของหวาน ขนมขบเคี้ยว
  • อารมณ์แปรปรวน
  • ปวดเมื่อย กล้ามเนื้ออักเสบ 

วิธีแก้ต่อมหมวกไตล้า

การแก้ภาวะต่อมหมวกไตล้าในเบื้องต้น สามารถทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตนเอง ดังต่อไปนี้

1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ควรจะเข้านอนตั้งแต่สี่ทุ่ม และสร้างบรรยากาศในการนอนที่ผ่อนคลาย เพื่อให้นอนหลับได้สนิทมากที่สุด

2. ลดความเครียด ด้วยการนั่งสมาธิ ดูหนัง ฟังเพลง หรือทำกิจกรรมที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย 

3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ต้องไม่หนักจนเกินไป อย่างน้อยวันละ 45 นาที 3 วันต่อสัปดาห์

4. รับประทานอาหารอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงอาหารที่หวานจัดหรือมันจัด และควรเลือกรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ผักและผลไม้

ต่อมหมวกไตล้า รักษาอย่างไร

หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วไม่ดีขึ้น แนะนำว่าควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม โดยการรักษาภาวะต่อมหมวกไตล้า สามารถทำได้ด้วยการให้ฮอร์โมนทดแทน ภายใต้การดูแลของแพทย์ชำนาญการ

ภาวะต่อมหมวกไตล้าควรกินอะไร

นอกจากการรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทนแล้ว ยังสามารถรับประทานวิตามินเสริม เช่น Ashwagandha (โสมอินเดีย) L-theanine (สารสกัดจากชาเขียว) Phosphatidylserine (สารสกัดจากถั่วเหลือง) วิตามิน C วิตามิน B3 วิตามิน B5 และวิตามิน B6 เพื่อช่วยลดอาการต่อมหมวกไตล้าได้อีกด้วย

ภาวะต่อมหมวกไตล้าควรรักษาที่ไหน

สำหรับผู้ที่รู้สึกว่าตนเองเหนื่อยง่าย ไม่มีแรง มีความเครียดสะสม เสี่ยงต่อการเป็นภาวะต่อมหมวกไตล้า สามารถเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษา รวมถึงรับฮอร์โมนทดแทนได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและนัดหมายเพื่อปรึกษาแพทย์
โทร 0-2677-7077
เฟสบุ๊ค : ADDLIFECenter
ไลน์: @addlife
เว็บไซต์: www.add-life.org