หมดเวลาต้องทนกับอาการเรื้อรัง ด้วยการปรับอาหาร

หมอเชื่อว่าหลายๆ คน ต้องทนกับอาการเหล่านี้ที่แก้ไม่หาย ไม่ว่าจะเป็น

  • ท้องอืด ท้องผูก
  • สิวเรื้อรัง
  • ผื่นคัน ผิวหนังอักเสบเรื้อรัง
  • ปวดหัว ไมเกรน
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ข้ออักเสบ
  • เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
  • น้ำหนักขึ้นไม่ทราบสาเหตุ
  • วิตกกังวล ซึมเศร้า

       ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ เรื้อรัง ทำให้ต้องทน หรือต้องใช้ยาต่อเนื่องเพื่อคุมอาการ  เมื่อหยุดยาอาการก็กลับมาเป็นซ้ำอีก  ทั้งนี้อาจเป็นเพราะยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง  ทำให้รักษาได้ไม่ตรงจุด  แต่เชื่อหรือไม่คะว่าอาการเหล่านี้อาจมีสาเหตุมาจากอาหารบางชนิดที่เรารับประทานเข้าไป ซึ่งจะไปก่อให้เกิดปฏิริยาต่อภูมิคุ้มกันในร่างกายผ่านแอนติบอดีชนิด IgG (Immunoglobulin G) ได้ โดยร่างกายจะสร้างแอนติบอดี มาต่อต้านอาหารที่กระตุ้น เมื่อเกิดปฏิกิริยาต่อต้านก็จะทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง ระบบภูมิคุ้มกันแปรปรวน อาจเรียกได้ว่ามีภาวะ Food Intolerance หรือ ภูมิแพ้อาหารแฝง ซึ่งไม่ใช่การแพ้แบบเฉียบพลันจนเราสังเกตได้ด้วยตัวเอง  ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานๆ อาจกลายเป็นโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะวิตกกังวล ซึมเศร้า มีอาการปวดอักเสบ ได้ค่ะ

      โดยอาหารที่มักกระตุ้นการแพ้ผ่าน IgG ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากนม  ไข่ แป้งสาลี ธัญพืช ถั่วต่างๆ รวมถึงยีสต์เช่น เบเกอรี่ ขนมปัง อาหารหมักดอง น้ำส้มสายชู เป็นต้น อย่างไรก็ตามในแต่ละคนก็จะไวต่อชนิดของอาหารที่แตกต่างกัน  ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ การเจาะเลือดตรวจหาชนิดของอาหารที่กระตุ้นการแพ้ค่ะ ซึ่งสามารถตรวจได้ถึง 222 ชนิด เมื่อเราทราบชนิดของอาหารที่แพ้ ก็จะสามารถควบคุมเฉพาะอาหารที่แพ้ได้ ไม่ต้องจำกัดอาหารแบบเดาสุ่มค่ะ  อย่างไรก็ดีควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อวางแผนการรักษาและปรับโภชนาการนะคะ   นอกจากนี้ภาวะไม่สมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ หรือการที่มีภาวะลำไส้รั่ว ก็ส่งผลต่อภาวะภูมิแพ้อาหารแฝงได้ค่ะ

 

>> คลิกเพื่อดูโปรแกรมตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง