ศาสตร์ชะลอวัย
Anti-Aging คืออะไร?
Anti-Aging เป็นศาสตร์ที่ช่วยชะลอวัยและความเสื่อมของร่างกายโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการหาความเสี่ยงที่จะก่อโรคในอนาคต เพื่อที่จะสามารถวางแผนดูแล ป้องกัน และฟื้นฟูที่ต้นเหตุ ให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ดูอ่อนกว่าวัย และมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ
การตรวจ Anti-Aging แตกต่างจากการตรวจสุขภาพทั่วไปอย่างไร?
การตรวจ Anti-Aging เป็นการตรวจวิเคราะห์เจาะลึกถึงระดับเซลล์ในร่างกาย เพื่อหาต้นเหตุของการเกิดภาวะบกพร่องต่างๆ ที่แฝงตัวอยู่ ไม่ว่าจะจากกรรมพันธุ์ สิ่งแวดล้อม การใช้ชีวิตประจำวัน ความเครียด การนอน และการรับประทานอาหารในแต่ละวัน รวมทั้ง ความอักเสบที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในต่างๆ ซึ่งเกิดจากเซลล์ในอวัยวะของเรามีการทำงานที่ไม่สมบูรณ์ ค่อยๆ เสื่อมสภาพลงไปเรื่อยๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว ฮอร์โมนในร่างกายที่ลดลง สารอนุมูลอิสระสะสมที่เพิ่มมากขึ้น สายพันธุกรรมเทโลเมียร์หดสั้นลง และการตรวจสุขภาพประจำปี ไม่สามารถตรวจพบได้
ใครเหมาะกับการตรวจ Anti-Aging?
Anti-Aging เหมาะกับทุกคน ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็สามารถเข้ารับการรักษาได้ โดยเฉพาะในวัย 30 ปีขึ้นไป ที่เริ่มมีการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายตามธรรมชาติ แม้ผลลัพธ์ในระยะแรกอาจจะไม่ค่อยชัดเจน แต่จะค่อยๆ รู้สึกได้ในเรื่องของความอ่อนเพลียที่ลดน้อยลง ความสดชื่นฟื้นคืนมา และประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นในระยะเวลา 1-2 เดือน
ความสำคัญของการตรวจวิตามินและแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการตามอายุ
เมื่อเราอายุมากขึ้น เราจะรู้สึกได้ว่าชนิดและปริมาณของอาหารที่เราทานจะมีผลต่อความสดชื่นหรือความเหนื่อยล้าของร่างกาย การได้รับสารอาหารและวิตามินที่เหมาะสมเพื่อชดเชยกับสารอาหารที่ขาดไป จะข่วยทำให้คุณแข็งแรงและสามารถมีอายุที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้
ที่แอดไลฟ์แพทย์จะซักประวัติและวิเคราะห์ปัญหาของแต่ละบุคคล เพื่อแนะนำโปรแกรมการตรวจเลือดที่เหมาะสมเพื่อดูระดับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น เมื่อได้ผลเลือดแล้วแพทย์จะจัดทำวิตามินสูตรเฉพาะบุคคลตามผลเลือด ที่ไม่สูงหรือต่ำเกินไป ตามความเหมาะสมของร่ายกาย ซึ่งวัตถุดิบมาจากธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง หรือเป็นพิษต่อตับหรือไต
การรักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน (Hormone Replacement Therapy) คือ?
ภาวะฮอร์โมนบกพร่องทำให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น ระบบเผาผลาญไม่ดี เหนื่อยล้า เพลีย ผิวแห้ง หลับไม่สนิท หงุดหงิด หรืออารมณ์แปรปรวน การทดแทนฮอร์โมนด้วยฮอร์โมนบำบัดแบบธรรมชาติที่มีโครงสร้างเหมือนกับที่ร่างกายสร้างขึ้น ปริมาณการให้ฮอร์โมนแพทย์จะพิจารณาเป็นรายบุคคล จะต้องมีการตรวจหาระดับฮอร์โมนอย่างละเอียดเพื่อวิเคราะห์ปริมาณฮอร์โมนทดแทนที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
โอโซนบำบัด (Oxygen Therapy) คืออะไร?
โอโซนบำบัด คือการนำเลือดออกจากร่างกายเพื่อผสมกับโอโซน และส่งกลับคืนสู่ร่างกาย ช่วยให้เซลล์ในร่างกายได้รับออกซิเจนได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันเพื่อช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับมลภาวะหรือเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย
คีเลชั่น (Chelation) หรือการล้างสารพิษ คืออะไร?
คีเลชั่น หรือการล้างสารพิษ คือการขจัดสารโลหะหนักหรือสารพิษออกจากเลือด ผ่านทางน้ำเกลือ เป็นการล้างสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย และขจัดออกจากร่างกายทางระบบปัสสาวะและระบบขับถ่าย ช่วยรักษาอาการอักเสบของหลอดเลือด ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
วิธีการเตรียมตัวอย่างไรก่อนเข้ารับการตรวจ?
ควรพักผ่อนให้เพียงพอ งดอาหารและเครื่องดื่ม 8 ชั่วโมง (น้ำเปล่าสามารถจิบได้) การเตรียมตัวง่ายมากๆ ไม่แตกต่างจากการตรวจสุขภาพประจำปีโดยทั่วไป ผู้เข้ารับการตรวจสุขภาพโปรดงดน้ำ อาหาร และเครื่องดื่มทุกชนิดก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมง และควรเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย และเก็บรักษาเครื่องประดับมีค่าต่างๆไว้ที่บ้าน ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดของทางโรงพยาบาลสำหรับเข้าตรวจโดยเครื่องมือพิเศษ เช่น การเข้าเครื่องตรวจทางรังสีวิทยา เป็นต้น
ต้องทำนัดก่อนหรือไม่ หรือสามารถ walk-in เข้าไปรับบริการได้?
เนื่องจากมีผู้เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน จึงอาจจะทำให้ได้รับบริการล่าช้าหากไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการรับบริการ แนะนำให้ทำนัดล่วงหน้าได้ที่หมายเลข +66 2 677 7077 หรือแอดไลน์ Line ID: @addlife ได้ทุกวันในเวลาทำการ 8.00-18.00 น.
IV Treatment หรือดริปวิตามิน (การให้สารอาหารทางหลอดเลือด) คืออะไร?
IV Treatment หรือดริปวิตามิน คือการให้วิตามิน กรดอะมิโน เกลือแร่ แร่ธาตุ หรือสารต้านอนุมูลอิสระทางหลอดเลือดดำผ่านสายน้ำเกลือ (IV Drip) เพื่อให้ร่างกายนำวิตามินไปใช้ในกระแสเลือดได้ทันที 100% โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยและดูดซึมที่ลำไส้เหมือนการทานอาหารเสริมประเภทวิตามินทั่วไป เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานให้ร่างกาย ช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่สมดุล แข็งแรง
IV Treatment อันตรายหรือไม่?
เนื่องจากวิตามินของ Addlife มีหลายสูตร จึงจำเป็นต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเป็นผู้กำหนดสูตรให้เหมาะสมเฉพาะบุคคล ทั้งนี้ก่อนการดริปวิตามิน จำเป็นต้องทำนัดพบแพทย์ เพื่อสอบถามประวัติสุขภาพ และอาจจะมีการตรวจสุขภาพเพิ่มเติมเพื่อวินิจฉัยปัญหา รวมถึงผลลัพธ์ที่คนไข้ต้องการ
IV Treatment กี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
จำนวนครั้งที่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนนั้น จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เนื่องจากปัญหาสุขภาพ หรือความสามารถในการดูดซึมสารต่างๆ และวิตามินที่แตกต่างกัน โดยควรห่างกันประมาณสัปดาห์ละครั้ง
IV Treatment ผลอยู่ได้นานไหม?
ขึ้นอยู่กับความถึ่ในการดริปวิตามิน โดยในท่านที่รับบริการหลายครั้ง จะได้รับวิตามินมากกว่า ผลจะอยู่ได้นานขึ้น และเมื่อจบคอร์ส ควรมีการ maintain เข้ามาดริปวิตามินซ้ำในระยะที่ห่างขึ้น เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนานขึ้น
ขั้นตอนการทำ IV Treatment เป็นอย่างไร?
แพทย์จะทำการตรวจร่างกายและให้คำแนะนำเพื่อเลือกวิตามินที่เหมาะสมกับคนไข้ จากนั้นพยาบาลจะทำการเปิดเส้น และต่อสายน้ำเกลือเข้าเส้นและปล่อยตัวยา ลักษณะเหมือนการให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล โดยระหว่างการให้น้ำเกลือคนไข้สามารถนอนพักผ่อน เล่นมือถือ ฟังเพลง ดูโทรทัศน์ หรือดูโทรศัพท์ได้