การวัดความยืดหยุ่นของหลอดเลือด

การวัดความยืดหยุ่นของหลอดเลือด
การวัดความยืดหยุ่นของหลอดเลือดเป็นการตรวจระบบหัวใจและหลอดเลือดเบื้องต้น โดยผ่านการวัดสองค่า คือการคํานวณหาคาความเร็วคลื่นชีพจรที่ผานหลอดเลือด (Pulse Wave Velocity; PWV) และค่าดัชนีอัตราส่วนความดันในหลอดเลือดแดงของแขนและขา ซึ่งเรียกว่า Ankle Brachial Index หรือ ABI คาความเร็วคลื่นชีพจรที่ผานหลอดเลือดนี้จึงนิยมใช้เพื่อตรวจดูการแข็งตัวของหลอดเลือดและใช้เพื่อทำนายความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจในอนาคต
ในขณะที่ค่าดัชนีอัตราส่วนความดันในหลอดเลือดแดงของแขนและขา เป็นดัชนีมาตรฐานที่ใช้สำหรับการตรวจหาโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน เพื่อดูความเสี่ยงการอุดตันและแข็งตัวของหลอดเลือด ซึ่งสัมพันธ์กับการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ
การประเมินความแข็งของหลอดเลือดนี้ จะช่วยให้เห็นว่าหลอดเลือดแดงมีความยืดหยุ่นแค่ไหน และเลือดไหลผ่านได้ดีเพียงใด เหล่านี้เป็นตัวที่แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง
การวัดความยืดหยุ่นของหลอดเลือดเหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือครอบครัวมีประวัติเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายหรือขาดเลือดเฉียบพลัน ไขมันในเลือดสูง
- ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ เช่น ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน
- ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การสูบบุหรี่ หรือการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป หรือมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ
- ผู้ที่เหนื่อยง่ายกว่าปกติ
ที่แอดไลฟ์เราเลือกใช้เครื่องตรวจวัดความยืดหยุ่นของหลอดเลือด รุ่น OMRON HBP-8000 (Omron Healthcare, จากประเทศญี่ปุ่น) เป็นอุปกรณ์ที่เหมือนการตรวจวัดความดันโลหิตทั่วไป ทำได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก ให้ความแม่นยำสูง และไม่มีความเสี่ยงหรือได้รับความเจ็บปวดในขณะตรวจ โดยผ่านการวัดสองค่า คือการคํานวณหาคาความเร็วคลื่นชีพจรที่ผานหลอดเลือด (Pulse Wave Velocity; PWV) และค่าดัชนีอัตราส่วนความดันในหลอดเลือดแดงของแขนและขา (Ankle Brachial Index; ABI) ค่าดัชนีดังกล่าวสามารถวินิจฉัยว่าหลอดเลือดแดงที่เลี้ยงแขนหรือขามีการอุดตันหรือไม่ มากน้อยเพียงใด การตรวจวัดความยืดหยุ่นของหลอดเลือดนี้มีความสัมพันธ์อย่างมากกับการตรวจการไหลเวียนเลือดของหลอดเลือดที่ใช้เวลาน้อย เพียงวัดจากข้อมือและข้อเท้าทั้ง 4 ด้าน เป็นวิธีการวัดที่รวดเร็วและเชื่อถือได้