CT Scan ช่วยเพิ่มความแม่นยำวินิจฉัยมะเร็งปอด

การตรวจคัดกรองมะเร็งปอดด้วยการทำ CT Scan (Low-Dose CT)

การตรวจคัดกรองมะเร็งปอดด้วยการใช้เครื่อง CT Scan ที่มีการใช้รังสีในปริมาณต่ำ (Low-Dose CT) กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง การตรวจคัดกรองมะเร็งปอดมีเป้าหมายเพื่อการตรวจพบโรคในระยะแรก ซึ่งการรักษาในระยะเริ่มต้นมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงขึ้น นี่คือวิธีที่ CT Scan ช่วยในการตรวจคัดกรองมะเร็งปอด:

1. ตรวจพบมะเร็งปอดในระยะแรก

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง การตรวจพบมะเร็งปอดในระยะแรกสามารถเพิ่มอัตราการรอดชีวิตได้ CT Scan แบบ Low-Dose ถูกใช้เพื่อคัดกรองผู้ที่มีประวัติการสูบบุหรี่หนัก อายุเกิน 50 ปี หรือผู้ที่มีความเสี่ยงอื่น ๆ เช่น ประวัติครอบครัวหรือการสัมผัสสารพิษในสิ่งแวดล้อม การตรวจด้วย Low-Dose CT มีความไวสูงกว่าการถ่ายภาพรังสีทรวงอกแบบดั้งเดิม และสามารถตรวจพบก้อนเนื้อมะเร็งขนาดเล็กได้ก่อนที่จะแสดงอาการ ช่วยให้ตรวจพบมะเร็งในระยะที่สามารถรักษาได้ง่ายกว่า

2. แนวทางการตรวจคัดกรองสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

ตามคำแนะนำของ U.S. Preventive Services Task Force (USPSTF) แนะนำให้ผู้ใหญ่ที่มีอายุระหว่าง 50-80 ปี ซึ่งมีประวัติการสูบบุหรี่หนัก (20 pack-years หรือมากกว่า) และเป็นผู้สูบบุหรี่ปัจจุบันหรือเคยสูบบุหรี่ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ควรทำการตรวจคัดกรองมะเร็งปอดทุกปีด้วย Low-Dose CT การคัดกรองเฉพาะกลุ่มนี้ช่วยให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงได้รับประโยชน์สูงสุดจากการตรวจพบในระยะเริ่มต้น โดยไม่ทำการตรวจหาผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ

3. ลดอัตราการเสียชีวิต

การศึกษาแสดงให้เห็นว่า การตรวจคัดกรองด้วย Low-Dose CT ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปอดในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงได้ การตรวจพบมะเร็งในระยะแรก เมื่อก้อนมะเร็งยังมีขนาดเล็กและจำกัดอยู่ในปอด จะช่วยเปิดโอกาสให้มีตัวเลือกการรักษามากขึ้น เช่น การผ่าตัด การรักษาด้วยรังสี หรือการบำบัดเฉพาะที่ มะเร็งปอดระยะแรกสามารถรักษาได้ดีกว่าและตัวเลือกการรักษามักจะน้อย invasive ทำให้มีโอกาสรอดชีวิตสูงขึ้น

4. ไม่รุกรานและใช้เวลาน้อย

การทำ CT Scan แบบ Low-Dose เป็นกระบวนการที่ไม่รุกราน ใช้เวลาไม่นานและค่อนข้างง่าย ผู้ป่วยเพียงแค่นอนอยู่บนเตียงขณะทำการตรวจ และกระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที การทำ CT Scan แบบ Low-Dose ยังช่วยลดความเครียดจากผู้ป่วย เมื่อเทียบกับการทำการตรวจที่รุกรานมากกว่า เช่น การตัดชิ้นเนื้อ ซึ่งอาจต้องทำต่อไปหากผลการตรวจพบพื้นที่ที่น่าสงสัย

5. ช่วยในการตรวจหาก้อนเนื้อและความผิดปกติ

การตรวจคัดกรองหลัก ๆ ด้วย CT Scan คือการหาก้อนเนื้อหรือความผิดปกติในปอด ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของมะเร็ง แม้ว่าก้อนเนื้อที่พบไม่ทั้งหมดจะเป็นมะเร็ง แต่การตรวจพบจะช่วยให้แพทย์สามารถทำการตรวจสอบเพิ่มเติมหรือการติดตามผลการตรวจเป็นระยะๆ การตรวจพบก้อนเนื้อแต่เนิ่นๆ ช่วยให้แพทย์สามารถติดตามการเจริญเติบโตของก้อนเนื้อและทำการแทรกแซงเมื่อจำเป็น

6. การติดตามผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง การทำ CT Scan แบบ Low-Dose อาจทำทุกปีเพื่อเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงในปอด เนื่องจากมะเร็งปอดสามารถพัฒนาและเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว การตรวจคัดกรองทุกปีช่วยให้สามารถตรวจพบการเปลี่ยนแปลงที่น่าสงสัยได้ทันที และทำการรักษาได้เร็วขึ้น

7. ข้อจำกัดของการตรวจคัดกรอง

แม้ว่าการตรวจคัดกรองด้วย Low-Dose CT จะมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น บางครั้งอาจตรวจพบความผิดปกติที่ไม่ใช่มะเร็ง ซึ่งอาจทำให้ต้องทำการตรวจเพิ่มเติมหรือชิ้นเนื้อ นอกจากนี้ยังมีการเกิดผลลบลวงได้ ซึ่งอาจทำให้ก้อนมะเร็งบางชนิดไม่ถูกตรวจพบ ดังนั้นการตรวจคัดกรอง CT ควรทำควบคู่กับการประเมินทางคลินิกอย่างละเอียด โดยคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยง ประวัติครอบครัวและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้ป่วย

8. การติดตามผลหลังจากผลลัพธ์ผิดปกติ

หากการทำ CT Scan พบปัญหาที่น่าสงสัย อาจต้องทำการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม เช่น การตัดชิ้นเนื้อ การทำ PET Scan หรือ MRI เพื่อตรวจสอบการมีอยู่ของมะเร็งปอด การตรวจคัดกรองเป็นระยะๆ มักจะได้รับการแนะนำสำหรับผู้ที่มีก้อนเนื้อที่เป็นเนื้องอกธรรมดา เพื่อการติดตามการเปลี่ยนแปลงหรือลักษณะที่อาจเป็นมะเร็ง

การทำ CT Scan แบบ Low-Dose เป็นเครื่องมือสำคัญในการตรวจคัดกรองมะเร็งปอด ซึ่งช่วยในการตรวจพบมะเร็งปอดในระยะแรกที่สามารถรักษาได้ สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง การตรวจคัดกรองสามารถช่วยชีวิตได้โดยการตรวจพบก้อนมะเร็งก่อนที่มันจะลุกลามไป การรักษาจะได้ผลดีและผลการรักษาจะดีขึ้นหากตรวจพบเร็ว หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักมีความเสี่ยงสูงสำหรับมะเร็งปอด การพูดคุยเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองด้วย CT Scan กับแพทย์จะช่วยตัดสินใจได้ว่าการตรวจนี้เหมาะสมสำหรับการตรวจพบในระยะแรกหรือไม่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:

โทร: 0-2677-7077
Facebook: ADDLIFECenter
Line: @addlife
เว็บไซต์: www.add-life.org