สารต้านอนุมูลอิสระคืออะไร? อธิบายแบบจบครบที่เดียว
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คำว่า ‘สารต้านอนุมูลอิสระ’ เริ่มเข้ามามีบทบาทเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ และเชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยผ่านหูผ่านตากับคำ ๆ นี้กันมาบ้าง อย่างไรก็ตาม น่าจะยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่ทราบว่าสารต้านอนุมูลอิสระคืออะไร มีข้อดีข้อเสีย และทำหน้าที่ในร่างกายอย่างไร รวมไปถึงเทรนด์การ ‘ตรวจสารต้านอนุมูลอิสระ’ ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น บทความนี้จึงจะมาให้คำตอบแก่ทุกข้อสงสัย อธิบายแบบเข้าใจง่าย จบครบในที่เดียว ติดตามได้เลย
ทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระ
สารต้านอนุมูลอิสระ คือ สารประกอบที่พบได้ในอาหาร รวมถึงอาหารเสริมหลายชนิด มีหน้าที่หลักช่วยปกป้องร่างกายของเราจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสารอันตรายต่อร่างกาย โดยอนุมูลอิสระเป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียรที่ผลิตขึ้นในระหว่างกระบวนการปกติของร่างกาย อีกทั้งยังสามารถสร้างขึ้นได้จากปัจจัยภายนอก เช่น มลภาวะ รังสี และการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
อนุมูลอิสระเชื่อมโยงกับการเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังหลายโรค ไม่ว่าจะเป็นมะเร็ง โรคหัวใจ และความผิดปกติของระบบประสาท ดังนั้น ร่างกายของเราจึงจำเป็นต้องได้รับสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อเข้าไปหยุดยั้งอนุมูลอิสระ ป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อเซลล์และเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ
โดยเมื่อสารต้านอนุมูลอิสระเข้าสู่ร่างกาย สิ่งที่เกิดขึ้นคือจะมีการส่งอิเล็กตรอนเข้าสู่อนุมูลอิสระ ทำให้พวกมันเสถียรและหยุดการสร้างความเสียหาย กระบวนการนี้เรียกว่า ‘ ปฏิกิริยาออกซิเดชั่น’ นอกจากนั้น สารต้านอนุมูลอิสระยังมีความสามารถในการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระขึ้นมาใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่น
สารต้านอนุมูลอิสระมีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน (เช่น วิตามินซี และอี) แร่ธาตุ (เช่น ซีลีเนียม สังกะสี) และสารพฤกษเคมี (เช่น ฟลาโวนอยด์และแคโรทีนอยด์) สารต้านอนุมูลอิสระแต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น วิตามินซีโดดเด่นเรื่องคุณสมบัติกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ในขณะที่วิตามินอีช่วยปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์จากความเสียหาย
ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดี การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเพียงพอคือหนึ่งในสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ โดยการบริโภคอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผลเบอร์รี ผักใบเขียว ถั่ว เมล็ดพืช และโฮลเกรน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคนี้ที่เร่งรีบและเวลาน้อย จึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะรับประทานอาหารได้อย่างครบถ้วน ดังนั้น อาหารเสริมที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระคืออีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์เช่นกัน
ประโยชน์ของการตรวจสารต้านอนุมูลอิสระ
เมื่อได้ทราบแล้วว่าสารต้านอนุมูลอิสระคืออะไร และจำเป็นต่อร่างกายมากเพียงใด ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในปัจจุบันการตรวจสารต้านอนุมูลอิสระ หรือที่เรียกว่า PAT Test (Plasma Antioxidant Test) คือสิ่งที่กำลังได้รับความนิยม
PAT Test คือ การทดสอบสารต้านอนุมูลอิสระในพลาสมา ขั้นตอนนี้จะช่วยวิเคราะห์สารต้านอนุมูลอิสระของร่างกายได้อย่างแม่นยำ ระบุข้อบกพร่องหรือส่วนเกินของระดับสารต้านอนุมูลอิสระ เรียกได้ว่ามีประโยชน์มากมาย และนี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณถึงควรเข้ารับการตรวจ
ช่วยในการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ก่อนสาย
ประโยชน์ที่สำคัญของ PAT Test คือเมื่อได้ทราบผลทดสอบ และพบความบกพร่องของสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิด เช่น วิตามินซีหรือวิตามินอี แพทย์สามารถแนะนำการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์หรือรับประทานอาหารเสริมเพื่อจัดการกับความไม่สมดุลดังกล่าวได้ทันเวลา ก่อนที่จะสายเกินไป และนำไปสู่การป่วยด้วยโรคร้ายแรง
ตอบโจทย์ผู้มีความเสี่ยงสูง
PAT Test ยังมีประโยชน์ต่อบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงต่อโรคซึ่งเกี่ยวข้องกับความบกพร่องจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นสภาวะต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และความผิดปกติของระบบประสาท ซึ่งด้วยการตรวจเป็นประจำทำให้สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป เพื่อลดความเสี่ยงการลุกลามของโรค
ชะลอการแก่ก่อนวัย
เนื่องจากความบกพร่องของปฏิกิริยาออกซิเดชั่นสามารถนำไปสู่การเสื่อมสภาพของอวัยวะและระบบต่าง ๆ ของร่างกายก่อนวัยอันควร ดังนั้น หากได้ทราบถึงความบกพร่องดังกล่าวจากการทำ PAT Test ก็สามารถหาแนวทางชะลอการแก่ก่อนวัยได้
ตรวจสารต้านอนุมูลอิสระอย่างมืออาชีพที่ ADDLIFE
ถึงตรงนี้ ทุกคนน่าจะเข้าใจแล้วว่าสารต้านอนุมูลอิสระ และ PAT Test คืออะไร ซึ่งหากสนใจตรวจสารต้านอนุมูลอิสระอย่างมืออาชีพ ต้องที่ ADDLIFE คลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-aging) ที่มาพร้อมโปรแกรม Anti-aging มุ่งค้นหาสาเหตุเชิงลึกของการเสื่อมสภาพของอวัยวะและระบบต่าง ๆ ของร่างกาย โดยใช้กระบวนการปรับสมดุลของฮอร์โมน สารอาหาร และวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย มีบุคลากรทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ ที่เชี่ยวชาญในหลากสาขาวิชา สามารถให้การดูแลรักษาได้อย่างตรงจุด สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE : @addlife หรือโทร. 02-677-7077