แบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ ภาวะไม่สมดุลที่อาจทำให้เสี่ยงโรค!

แบคทีเรียในลำไส้มีอะไรบ้าง สำคัญอย่างไรกับสุขภาพมนุษย์

รู้หรือไม่?  แบคทีเรียในลำไส้ไม่สมดุล สัมพันธ์กับการเกิดโรค

ในร่างกายของมนุษย์มีจุลินทรีย์ หรือจุลชีพ (Microorganism) อยู่หลายล้านล้านเซลล์ เช่น เชื้อแบคทีเรีย โดยหนึ่งในอวัยวะที่มีจุลินทรีย์อาศัยอยู่ค่อนข้างมากก็คือบริเวณลำไส้ ซึ่งสำคัญต่อระบบทางเดินอาหารและการรักษาสุขภาพของเราอย่างมาก แต่ถ้าแบคทีเรียในลำไส้อยู่ในภาวะไม่สมดุล มีจำนวนมากเกินไป จะส่งผลอย่างไรต่อสุขภาพและกระบวนการแก่ชราของร่างกาย บทความนี้เรามีคำตอบมาฝาก

แบคทีเรียในลำไส้ จุลชีพที่มีผลต่อสุขภาพของมนุษย์

ตามธรรมชาติของร่างกาย มนุษย์เรามีจุลินทรีย์และแบคทีเรียในลำไส้มากถึง 100 ล้านล้านตัว มีทั้งที่เป็นตัวดีและตัวไม่ดี ซึ่งมีผลต่อภาวะสุขภาพ โดยส่วนมากมักจะโฟกัสไปที่แบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ ส่วนจะมีอะไรบ้าง ในบทความนี้จะขอแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือประเภทโพรไบโอติก (Probiotic) ซึ่งเป็นชนิดดี และประเภทจุลินทรีย์ก่อโรค (Pathogen) โดยสามารถอธิบายได้ ดังนี้

1. ประเภทโพรไบโอติก (Probiotic)

โพรไบโอติก เป็นประเภทของแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ของมนุษย์ มีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย โดยทั่วไปจะเป็นแบคทีเรียประจำถิ่น อาจพบได้หลายที่ในระบบทางเดินอาหาร แต่พบได้มากที่สุดในลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้โพรไบโอติก ยังเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของวิธีรักษาภาวะสุขภาพให้สมดุล เนื่องจากเป็นแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ที่ทำหน้าที่สร้างกรดแลกติก พร้อมยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อโรค และการย่อยอาหารของจุลินทรีย์ พร้อมส่งเสริมการดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของโพรไบโอติก

  • สร้างสมดุลให้ระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย
  • กระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย
  • รักษาและบรรเทาอาการโรคกระเพาะ
  • ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
  • ลดอาการอักเสบและภูมิแพ้ของร่างกาย

2. ประเภทจุลินทรีย์ก่อโรค (Pathogen)

ในขณะเดียวกัน ลำไส้ใหญ่ของมนุษย์ยังมีแบคทีเรียชนิดที่ไม่ดีอยู่ด้วย โดยเป็นประเภทจุลินทรีย์ก่อโรค ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายเผชิญกับโรคต่าง ๆ  เช่น โรคอาหารเป็นพิษ โรคติดเชื้อจากอาหาร และโรคจากสารพิษที่เชื้อสร้างขึ้นมา ซึ่งอาจมีอาการความรุนแรงได้ตั้งแต่น้อยไปจนถึงมาก หรืออาจคุกคามต่อชีวิตได้ จุลินทรีย์ก่อโรคนั้นเป็นได้ทั้งรา ไวรัส และปรสิต แต่ตัวที่เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดคือ แบคทีเรีย ซึ่งเรารับเพิ่มเข้าสู่ร่างกายจากการรับประทานอาหารนั่นเอง 

ความเสี่ยงจากภาวะขาดสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่

เพราะแบคทีเรียในลำไส้มีบทบาทอย่างมากต่อภาวะสุขภาพที่สมบูรณ์ ดังนั้น เมื่อไม่สามารถรักษาให้สมดุลได้อย่างที่ควรเป็น ร่างกายก็จะแสดงอาการป่วยออกมาผ่านภาวะและโรคต่าง ๆ เช่น

  • โรคลำไส้ใหญ่อักเสบจากการติดเชื้อ: เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือปรสิต โดยสาเหตุที่พบบ่อยมักมาจากเชื้อซัลโมเนลลา (Salmonella) และเชื้ออีโคไล (E. coli) ที่ปนเปื้อนในอาหารหรือน้ำ
  • ภาวะซึมเศร้าหรือความวิตกกังวล: เกิดจากการขาดสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ ซึ่งสัมพันธ์กับสมอง ส่งผลต่ออารมณ์และพฤติกรรม รวมถึงการผลิตฮอร์โมนเซโรโทนิน หรือฮอร์โมนแห่งความสุขที่ลำไส้ต่ำลง จึงไม่แปลกที่จะทำให้รู้สึกเศร้า เครียด และปวดท้องตามมา ทั้งยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายเสื่อมถอยเร็วกว่าวัยอันควร 
  • ภาวะอ้วน: เนื่องจากจุลินทรีย์ในลำไส้มีบทบาทเป็นอย่างมากต่อระบบเผาผลาญพลังงาน ดังนั้นการปรับสมดุลโพรไบโอติก จึงมีส่วนช่วยเป็นอย่างมากที่จะลดภาวะเสี่ยงจากการเป็นโรคอ้วน
  • โรคผิวหนัง: เกิดจากการรั่วซึมของสารพิษจากแบคทีเรียในลำไส้ เมื่อมีภาวะไม่สมดุลก็จะทำให้การดูดซึมและเผาผลาญไม่ดี ทำให้เกิดอาการอักเสบ ส่งผลต่อการเกิดโรคผิวหนัง สิว กลากเกลื้อน และภูมิแพ้ผิวหนังได้ อันจะนำไปสู่การเกิดริ้วรอย ผิวพรรณไม่สดใส แลดูแก่กว่าวัยได้
  • โรคมะเร็งลำไส้: แบคทีเรียในลำไส้ใหญ่บางชนิดอย่างเชื้อฟิวโซแบคทีเรียม (Fusobacterium) และเชื้อโพรวิเดนเซีย (Providencia) ถือเป็นชนิดที่มีความเสี่ยงอย่างมากในการก่อให้เกิดเชื้อมะเร็งในบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้การรับประทานเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ใหญ่ก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย

นอกจากโรคและภาวะที่ยกตัวอย่างมา การขาดสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ยังส่งผลต่อความเสี่ยงอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน รวมไปถึงโรคตับอีกด้วย

วิธีรักษาสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่

วิธีรักษาสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้มีอะไรบ้าง.jpg

  • นอนหลับให้เพียงพอ: ลดผลกระทบต่อระบบย่อยอาหาร ด้วยการนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อช่วยรักษาสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ที่ส่งเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ: ใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน เป็นเวลา 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของลำไส้ ลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นอันตรายและยังช่วยเพิ่มความหลากหลายของจุลินทรีย์ 
  • ปรับพฤติกรรมการทานอาหาร: ลดการทานเนื้อสัตว์แปรรูป อาหารสำเร็จรูป เพราะอาหารเหล่านี้มักมีสารกันบูด ไขมันอิ่มตัว และโซเดียมสูง ทั้งยังอุดมไปด้วยแบคทีเรียที่ไม่ดีต่อลำไส้
  • ลดอาหารรสจัด: จำพวกอาหารรสเผ็ด เค็ม หรือรสจัด เพราะจะไปทำร้ายเยื่อบุลำไส้ ทำให้อักเสบ และเป็นแผล และไปทำลายสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้อีกด้วย
  • ทานอาหารที่มีโพรไบโอติก: รับจุลินทรีย์ที่มีชีวิต เพื่อไปช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ สามารถหาทานได้จากโยเกิร์ต นมเปรี้ยว กิมจิ ชีส เป็นต้น  โดยในกรณีที่ไม่สามารถรับประทานอาหารประเภทนี้ เนื่องจากมีอาการแพ้หรืออื่น ๆ สามารถเลือกรับประทานในรูปแบบของแคลเซียมเม็ดหรือ Probiotics ทดแทนได้เช่นกัน

ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า ด้วยโปรแกรมชะลอวัย โซลูชันใหม่ในการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคลที่คลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย ADDLIFE พร้อมดูแลแบบองค์รวม โดยบุคลากรและทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ ที่จะช่วยปรับไลฟ์สไตล์ กำหนดอาหาร และการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อสมดุลแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ที่ดีกว่า เปิดบริการทุกวัน เวลา 7.00-18.00 น. ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE @addlife หรือโทร. 02 677 7077

 

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Pathogen / จุลินทรีย์ก่อโรค. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 จาก https://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/0429/pathogen-จุลินทรีย์ก่อโรค 
  2. ควบคุมแบคทีเรียไม่ดี ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวาย. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 จาก https://www.wongkarnpat.com/viewya.php?id=2320 
  3. Food Pathogens จุลชีพก่อโรคในอาหาร. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 จาก http://www.unisys-th.com/16530841/food-pathogen-จุลชีพก่อโรคในอาหาร 
  4. โรคซึมเศร้า เกิดจาก สภาวะจิตใจ จุลินทรีย์ในลำไส้ หรือสารเคมีในสมอง?. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 จาก https://www.thrivewellnessth.com/post/โรคซึมเศร้า 
  5. “ลำไส้กับผิว สิวกับแบคทีเรีย”. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 จาก https://interpharma.co.th/articles/ลำไส้กับผิว-สิวกับแบคที?locale=th 
  6. นักวิจัยพบแบคทีเรียสองชนิดเชื่อมโยงการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567 จาก https://www.voathai.com/a/colon-cancer-ro/2837930.html